The Road Runner - วิ่งบนถนนหนทาง
คงไม่มีใครหรอกที่อยากเป็นเจ้าของรถยนต์ ที่รูปทรงสวย ตัวถังงาม แต่เครื่องยนต์ห่วย ซึ่ง เครื่องอาจจะหลวม อาจจะกินน้ำมัน อาจจะรั่ว ฯลฯ
นี่ละครับคือประเด็นของผม รถยนต์ที่ว่าก็คือ ร่างกายของเราแหละครับ เล่นเวทจนกล้ามขึ้นเป็นมัดๆ อกผาย ไหล่ผึ่ง แขนเบ้อเร่อ หลังเป็นตัววี แต่ขึ้นบันไดสองชั้นก็หอบแล้ว ตัวใหญ่ หัวใจเล็ก ภายนอกสวย แต่เครื่องยนต์ไม่ดี
โดยที่ไม่ต้องลงทฤษฎีมาก การเล่นเวทเป็น anaerobic เราควรเสริมด้วยโปรแกรม aerobic ด้วย aerobic มีหลากหลายวิธีครับ แต่คำตอบสุดท้ายของผม (ย้ำว่าของผม) คือ การวิ่ง ครับ ด้วยเหตุผลนานาประการ คือ
- ลงทุนน้อย - การลงทุนหลัก คือ รองเท้าวิ่งคู่เดียวครับ อาจต้องลงทุนรุ่น (รุ่นนะครับ ไม่ได้บอกว่ายี่ห้อ) ที่ดีหน่อย งบประมาณ 1,500 ถึง 2,000 บาทก็พอซื้อได้ครับ ให้ PC ห้างเขาแนะนำก็ได้ว่าต้องการรองเท้าวิ่ง แต่อย่าไปหลงคารมณ์มากนัก เพราะเขาก็ต้องการขายของ ส่วนชุดก็มีกางเกงขาสั้น กับเสื้อยืดเก่าๆ ก็ได้แล้ว ใครๆ ก็มี ไม่ต้องลงทุน อ้อ แล้วก็ถุงเท้ากีฬาหนาๆ ซักคุ่สองคู่
- ไม่ต้องพึ่งคนอื่น - กีฬาบางประเภท เช่น เทนนิสต้องมีคนเล่นสองคน กอล์ฟต้องมีก๊วน ฟุตซอลที่กำลังนิยม ยิ่งต้องหลายคน แต่สำหรับการวิ่งนั้น ไม่ต้องรอใคร ไม่ต้องพึ่งใครครับ ถ้ามีเพื่อนวิ่งด้วยก็ดี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร
- ทำได้แทบทุกที่ - เช่น ตาม สวนสาธารณะที่มีอยู่ทั่วไปในกรณีอาศัยอยู่ใจกลางเมือง ถ้าอยู่นอกเมืองหน่อยก็ วิ่งตามถนนหนทาง เช่น ถนนเลียบทางด่วน หรือถนนใหญ่ 6-8 เลน ที่พอวิ่งได้ตามบนบนบาทวิธี ไหล่ทาง หรือฟุตปาธ ส่วนการวิ่งบนฟุตปาธให้วิ่ง "ย้อนศร" รถวิ่งนะครับ ตรรกะ คือ ให้เราเห็นรถยนต์ที่วิ่งสวนมาจะปลอดภัยกว่าไม่เห็น อย่างในกรณีวิ่ง "ตามศร" เราจะไม่เห็นรถยนต์ที่มาจากข้างหลังเรา
- ผนวกกับกิจกรรมอื่นได้ - อันนี้เป็นรสนิยมส่วนตัวนะครับ ไม่จำเป็นต้องลอกเลียนแบบ บางวันผมอยากวิ่งออกกำลัง แต่มีธุระต้องไปห้างสรรพสินค้า ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งใช่ไหมครับ ไม่เลย ผมใช้วิธี วิ่งไปห้าง ครับ ไปถึงห้างก็เหงื่อไหลไคลย้อยหน่อย แต่ธุระไม่ได้เป็นการสอบสัมภาษณ์เข้างานไม่ได้นัดลูกค้า ไม่ได้ไปออกเดท หรือไม่ได้ไปสันทนาการกับใคร ฯลฯ ก็ไม่ต้องสนใจใครครับ ได้ทั้งงาน ได้ทั้งวิ่ง คุ้มค่าครับ
กรณีวิ่งนอกบ้าน แนะนำให้มีกระเป๋าคาดเอวเล็กๆ หนึ่งใบไว้ใส่
- กุญแจบ้าน/กุญแจรถ,
- โทรศัพท์มือถือ (+ ถุงพลาสติกขนาดใส่โอเลี้ยงหนึ่งใบไว้ใส่มือถือ เผื่อฝนตก),
- เงินสดนิดหน่อย ร้อยสองร้อย,
- สำเนาบัตรประชาชนหรือใบขับขี่ (ไว้พิสูจน์อัตลักษณ์ เผื่อไว้ยามเหตุไม่คาดคิด อย่าคิดมาก),
- เบอร์โทรศัพท์คนใกล้ชิด 2-3 คน กรณีเหตูฉุกเฉินข้างบน,
- ถ้าชอบฟังเพลงก็มีเครื่อง mp3 พกพาหนึ่งเครื่อง หรือใช้โทรศัพท์มือถือก็ได้ พร้อมหูฟังที่คาดหูได้ จะได้ไม่หลุดง่าย แต่อย่าเป็นหูฟ้งที่ปิดเสียงภายนอกหมดนะครับ ต้องได้ยินเสียงรอบข้างด้วย อย่าลืมว่าเราวิ่งนอกบ้านมีรถรา เครื่องจักรก่อสร้าง ฯลฯ
กรณีมีลู่วิ่งไฟฟ้าในบ้านก็สะดวกอีกแบบ แต่จะไม่ได้บรรยากาศภายนอกนะครับ ข้อดีคือ ไม่มีข้อจำกัดเวลา และภูมิอากาศ
เรื่องภูมิอากาศไม่เท่าไร ฝนตกๆ ผมก็วิ่งมาแล้ว ยิ่งหนักยิ่งดี เย็นดี สดชื่นด้วย (แต่อย่ามีฟ้าผ่านะ ไม่ควรเสี่ยงวิ่ง หรืออยู่นอกอาคารกรณีฟ้าผ่า) ใครจะว่าเราบ้าก็ไม่เป็นไร เรื่องของเรา ไม่ได้เดึอดร้อนใคร
แต่เรื่องเวลา หลังตะวันตกติน ต้องยอมแพ้ครับ ถึงท้องถนนมีรถวิ่ง แต่ฟุตบาธอยู่ในความมืดครับ กลัวโดนตีหัว พูดมาเสียตั้งนาน ยังไม่พูดถึงการวิ่งเลย ได้ฤกษ์แล้วครับ
การวิ่งออกกำลังกายครั้งแรกของผม ง่ายๆ เรื่มต้นจากการเดินครับ แล้วเดินเร็วขึ้น เร็วขึ้น ...จนกลายเป็นการวิ่งเหยาะๆ ... ถ้าเริ่มเหนือย ... วิ่งได้ไม่เยอะ ไปได้ไม่ไกล ไม่เป็นไรครับ ... ลดระดับมาหนึ่งสเตป กลับมาเป็นเดินเหมือนเดิม แล้วเพิ่มสปีดเร็วขึ้นๆ ...จนกลายเป็นการวิ่งเหยาะๆ อีกครั้ง สลับไปสลับมาเรื่อยๆ ครับ อีกไม่ช้าไม่นาน อาจเป็นวันแรก หรือวันต่อๆ ไป เราก็จะวิ่งได้ต่อเนื่อง ตั้งแต่เรื่มต้น จนจบ
วิ่งแค่ไหนหรือครับ ผมมีเกณฑ์ระยะเวลาขั้นต่ำไว้ในใจ คือ 25-30 นาที ต่อการวิ่งหนึ่งครั้ง ระยะเวลาไม่ควรต่ำกว่านี้
เส้นทางของผมจะวิ่งเป็นวงกลม ให้สิ้นสุดในเวลาที่กำหนดในจุดเริ่มต้น สะดวกครับ เรื่มตรงไหน จบตรงนั้น ไม่ต้องเดินกลับจุดเรื่มต้น (กรณีจอดรถไว้) อีก ส่วนการปรับ ระยะเวลา และ/หรือ ความเร็ว และ/หรือ ระยะทาง ก็ล้วนเป็นตัวแปร ไว้พลิกแพลงโปรแกรมวิ่งของเราครับ
