ไม่ใช่ครับ เราไม่ได้พูดถึงสารเสพติดที่เราต้องสูด สูบ ดื่ม หรือฉีดเข้าร่างกาย แล้วก็มีผลเสียต่างๆ นาๆ กับร่างกาย (รวมถึงเอาร่างกายเข้าไปอยู่ในคุกด้วย) เรากำลังพูดถึง เอ็นดอร์ฟิน หรือ *สารแห่งความสุข* ที่ผลิตจากภายในร่างกายของเราโดยการออกแรงต่อเนื่องให้พ้นระยะเวลาหนึ่ง (25-30 นาทีขึ้นไป) และ/หรือ เกินระดับความอดทนระดับหนึ่ง (อัตราเต้นของหัวใจสูงขึ้น เหงื่อออก หายใจแรงขึ้น) ซึ่งเราคงไม่ลงลึกไประดับเวชศาสตร์การกีฬา หรือ กายวิภาคศาสตร์ของแพทย์นะครับ
ทำไมผมถึงกล้าพูดว่าเป็นผู้เสพเอ็นดอร์ฟิน?
ก็เพราะ 10 กว่าปีที่ผ่านมาผมมีโปรแกรมวิ่งออกกำลังกายสัปดาห์ละ 5 วัน ในความเป็นจริง บางวันก็มีธุระปะปัง บางวันอาจบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วย เอาเป็นว่าผมวิ่งได้เฉลี่ยสัปดาห์ละ 4 วัน คูณ 52 สัปดาห์ในหนึ่งปี ก็เท่ากับผมวิ่งปีละไม่ต่ำกว่า 200 วัน
นอกจากประเด็นหงุดหงิด นั่งไม่ติด ถ้าไม่ได้ออกวิ่ง ยังมีแรงจูงใจหลายประการ ทั้งกาย ทั้งใจ
เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ทั้งๆ ที่เล่นเวทสัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง ผมเป็นโรคภูมิแพ้เรื้อรัง เจ็บคอ เจ็บโพรงจมูก เป็นประจำ ต้องเสียค่ายากับหมอหู คอ จมูก เดือนละประมาณ 1,000 บาท ถ้าทุกวันนี้ยังเป็นอยู่ ค่ายาคงสูงกว่านี้
วันนั้นจำไม่ได้ว่ามีแรงดลใจอะไรทำให้ผมเริ่มวิ่งออกกำลังกาย แต่ตั้งแต่เริ่มวิ่ง อาการภูมิแพ้ก็ค่อยๆ หายไป จนแทบไม่เป็นเลย (แม้ทุกวันนี้ ใช้ชีวิตกินนอนอยู่กับแมว 10 กว่าตัว)
ถ้าวันไหนคัดจมูก ปวดโพรงจมูก ก็ออกวิ่ง กลับจากวิ่งอาการก็จะหายปลิดทิ้ง เหมือนมียาวิเศษ (ก็เอ็นดอร์ฟินไงครับ) สุขภาพร่างกายโดยทั่วไปก็ดี ภูมิต้านทานสูง เจ็บไข้ได้ป่วยก็มีบ้าง แต่ก็ไม่บ่อย และฟื้นตัวเร็ว
Resting heart rate หรืออัตราการเต้นของหัวใจตอนพักของผม คือ 54-56 bpm (beats per minute หรือจำนวนครั้งต่อนาที) วัดโดยจับชีพจรเมื่อตื่นขึ้นตอนเช้าแต่ยังไม่ลุกจากเตียง อัตรานี้น่าจะค่อนข้างดีสำหรับอายุผม (ลองจับชีพจรตัวเองก็ได้ ลืมตาตื่นขึ้นตอนเข้าอย่าเพิ่งลุกจากเตียง ให้กดนิ้วที่ (1) ข้อมือด้านฝ่ามือฝั่งนิ้วโป้ง หรือ (2) ต้นคอซ้าย หรือขวาก็ได้ ใต้คาง แล้วนับจำนวนการเต้นในหนึ่งนาที ใช้นาฬิกา หรือโทรศัพท์มือถือจับเวลา จะทำ้แบบย่อก็ได้ ซึ่งผมใช้เป็นประจำระหว่างการวิ่ง ไม่เสียเวลามาก คือ นับจำนวนการเต้นใน 6 วินาที แล้วคูณด้วย 10 หรือเติม 0)
ทางด้านจิตใจละ ผมยอมรับว่าชีวิตนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ปัญหา และอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่แวะเวียนมาหาอยู่เรื่อยๆ การวิ่งออกกำลังไม่ได้แก้ปัญหาให้ผมๆ ยอมรับ แต่หลังจากการวิ่ง สารเอ็นโดรฟินที่หลั่งออกมาจะช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้น ปัญหาใหญ่ก็กลายเป็นปัญหาเล็ก ปัญหาเล็กก็กลายเป็นไม่มีปัญหา ย้ำนะครับมาการวิ่งไม่ได้แก้ปัญหาให้แต่ช่วยให้ผมตั้งรับแก้ปัญหาได้ดีขึ้น ไม่มีการอิดโรย ท้อถอย หรือซึมเศร้า แน่นอน
ไม่จำเป็นต้องทำแบบผมนะครับ เพราะมีผู้ใหญ่เตือนอยู่เหมือนกับว่า การวิ่งมันไม่ดีนัก ถ้าอายุมากๆ อาจมีปัญหากับเข่ากับข้อเท้าได้ ก็ไม่เป็นไรครับ ออกกำลังอะไรก็ได้ ให้ต่อเนื่อง 25-30 นาที สัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง จะเป็นเต้นแอโรบิก ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ฯลฯ
ถ้าเป็นสมาชิกฟิตเนสเซ็นเตอร์ก็จะมีอุปกรณ์ให้เลือกอีกเช่น ellipitical กรรเชียงบก ฯลฯ แล้วแต่คนชอบครับ บอกได้เลยว่า การออกกำลังกายนั้น เราไม่มีอะไรจะเสีย มีแต่ได้ ขึ้นกับว่าเราเห็นคุณค่าของมันหรือเปล่า