การเล่นเวท ไม่ว่าเป็นมือใหม่หัดยก หรือว่ามือเก่าชำชอง จะต้องมาถึงทางสองแพร่งนี้ ไม่ช้าก็เร็ว>ห้องเวทในบ้าน (Weight Room) vs. ฟิตเนสเซ็นเตอร์ (Fitness Center)
ผมอยากจะให้แนวทางและข้อคิดสำหรับการตัดสินใจดังนี้
สำหรับมือใหม่ทีไม่เคยยกเหล็กมาก่อนเลยในชีวิต การเริ่มต้นด้วยตัวเองที่บ้าน แม้มีอุปกรณ์ทันสมัยครบครัน อาจจะรู้สึกเคว้งคว้าง ไม่รู้จะจับอะไร ออกอะไร ก่อน ออกอะไรหลัง เล่นผิดเล่นถูก
ในที่นี้ หากเราพอมีผู้รู้ใกล้ตัวที่พอจะแนะนำเราได้ ก็ไม่เป็นไร
หากไม่มี ก็คงเป็นความจำเป็นครับ ที่จะต้องสมัครเข้าฟิตเนสเซ็นเตอร์ แห่งใดแห่งหนึ่ง ถ้าเข้าฟิตเนสเซ็นเตอร์แล้ว พอจะหารุ่นพี่ที่พอจะแนะนำเราได้ก็ดีไป มิฉะนั้นคงต้องจ้างครูฝึกส่วนตัว (Personal Trainer) มาช่วยสอน และเป็นสปอตเตอร์ (Spotter) ในคราวเดียวกัน
การเลือกจ่ายค่าสมาชิดฟิตเนสเซ็นเตอร์ เราจะมีโอกาสได้ใช้อุปกรณ์ยิม-เครื่องเวท ที่หลายหลาย และมากมายกว่าที่เราจะมีงบประมาณซื้อเองที่บ้านได้ และก็น่าจะมีอุปกรณ์ Pin-load (มีตับน้ำหนักในตัว ใช้เข็มเสียบเลือกน้ำหนัก) และ Plate-load (ไม่มีตับน้ำหนักในตัว แต่มีแกน 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว ไว้เติมแผ่นน้ำหนัก) ที่ช่วยเรื่องท่าเล่น และฟอร์มการเล่นด้วย เนื่องจากเครื่องเวทประเภทนี้จะบังคับการเคลื่อนไหว และไม่มีความจำเป็นต้องรักษาสมดุลย์ (ยกซ้าย-ขวาให้เท่ากัน) ในการยกน้ำหนัก
จะได้แรงกระตุ้นจากสมาชิกคนอื่นรอบข้าง ทั้งเพศเดียวกัน และเพศตรงข้าม
เราอาจจะดู และศึกษาการเล่นเวทของผู้ชายด้วยกัน แต่มีประสบการณ์มากกว่า รูปร่างดีกว่า เป็นการเรียนรู้ และเป็นกำลังใจ ให้รูปร่างกล้ามเนื้อเราดีเท่าเขา
ถ้ามีการพูดคุยกันในแง่วิชาการ การเล่นอย่างไร ท่าบริหารไหน ให้ได้ผลสูงสุดได้ ยิ่งดีครับ
อาจได้พบปะพูดคุยกับผู้หญิงในโรงยิม ให้ชุ่มฉ่ำใจ และเป็นกำลังใจเช่นกัน
การมีเพื่อนคุยระหว่างการเล่นยิม ช่วยทำให้การเล่นไม่น่าเบื่อ ไม่น่าเซ็ง อาจทำให้กระชุ่มกระชวยขึ้นด้วยซ้ำ ถ้าเป็นเพศตรงข้ามที่ต้องตาต้องใจ (ไม่ผิดครับ แต่อย่าไปเป็นพวก Stalker ไล่จีบแต่ผู้หญิงเป็นงานหลัก ไม่ออกกำลังกายอะไรเลย ก็แล้วกัน)
เล่นเวทในฟิตเนสเซ็นเตอร์ อาจมีอุปสรรคบ้างที่ก็ต้องแก้กันไปครับ จะมีพวกที่เข้าใจผิดว่า
เป็นต้น แต่สำหรับผู้ที่มี ปณิธานและความพยายาม ทุกปัญหาย่อมแก้ได้ครับแต่ในทางกลับกัน หากเราพอมีความรู้เรื่องเพาะกายบ้างเป็นทุนเดิม การสร้างห้องเวทที่บ้านอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าก็ได้
จริงอยู่การลงทุนขั้นต้นอาจสูงกว่าเงินรายเดือน หรือรายปีที่เราเคยจ่ายให้ฟิตเนสเซ็นเตอร์ แต่ในระยะยาวนั้น อาจคืนทุนให้เราภายในเวลาปีสองปีเท่านั้น
มีข้อดีมากๆของการมีห้องเวทก็คือ ไม่ต้องเดินทางไปไหน ก็รุ้ๆกันอยู่ว่าการจราจรในปัจจุบันนั้น รถติดสาหัสากรรจ์ขนาดไหน บางคนบอกว่าแค่เดินทางไปกลับก็ปาเข้าไปเกือบสองชั่วโมงแล้ว
บางคนเป็นพ่อลูกอ่อน ไม่อยากไปไหนไกล อยากอยู่ใกล้ๆลูก ก็ไม่ต้องคิดมากเลยครับ เปิดห้องเวทที่บ้านเลย
อย่างไรก็ตามครับ ข้อความระวังคือ การมีห้องเวทที่บ้าน ต้องมาควบคู่กับการมีวินัยอย่างสูง ต้องไม่มีการผลัดวันประกันพรุ่ง ต้องไม่มีการติดไว้ก่อน ต้องไม่มีการหลอกตัวเองว่าต้นสัปดาห์หรือต้นเดือนหน้าจะเข้าสู่โปรแกรมเวทเทรนนิ่งอย่างประจำ นำพาให้เราเช้าสู่โหมด Burn-out เทียม แล้วต่อไม่ติด เข้าป่าไปเลย
ถ้าผ่านพ้นขวากหนามนี้ไปได้ ก็เป็นเสือติดปีกได้เลยครับ
อุปกรณ์หลังชิ้นแรกที่ห้องเวทควรจะมีก็คือ Power Rack และอุปกรณ์รอบข้างคือ ม้าบริหารที่ปรับองศาเบาะได้ บาร์เบลที่ความยากสอดคล้องกับ Power Rack และ แผ่นน้ำหนักขนาดต่างๆ
การมีห้องเวทในกรณีหลังนี้ ถ้าไม่มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกันการเพาะกาย เล่นกล้าม บ้าง ก็ควรจะเป็นพวกไผ่รู้ ชอบศึกษาหาความรู้ครับ Internet และ โทรศัพท์มือถือ เป็นปัจจัยนำความรู้ของมนุษยชาติ มาไว้ในมือเรา ควรใช้ให้ได้ประโยชน์สูงสุดครับ